|
|
|
ท่องสุริยะ
ดวงอาทิตย์ | ดาวพุธ | ดาวศุกร์ | โลก | ดาวอังคาร | ดาวพฤหัสบดี | ดาวเสาร์ | ดาวยูเรนัส | ดาวเนปจูน | ดาวพลูโต | ดาวหาง | ดาวเคราะห์น้อย |
|
ดาวศุกร์ได้รับฉายาว่า อัญมณีแห่งท้องฟ้า ตั้งชื่อตามเทพโรมัน วีนัส เทพแห่งความรักและความงาม นักดาราศาสตร์สมัยก่อนรู้จักดาวศุกร์ในฐานะที่เป็นดาวสุกสว่างยามเช้า (ประกายพรึก) และดาวสุกสว่างในตอนค่ำ (ประจำเมือง) และยังเคยเชื่อกันด้วยว่า ดาวศุกร์เป็นชิ้นส่วนสองชิ้นที่แยกกัน บรรยากาศของดาวศุกร์ปกคลุมไปด้วยเมฆหนาทึบ
ดาวศุกร์เปรียบเสมือนพี่สาวของโลก ทั้งนี้เพราะทั้งสองดวงมีขนาดพอ ๆ กัน มวลระดับเดียวกัน รวมทั้งความหนาแน่นและปริมาตรก็ระดับเดียวกัน นักดาราศาสตร์เชื่อว่าทั้งโลกและดาวศุกร์ถือกำเนิดมาจากกลุ่มฝุ่นเดียวกันในเวลาเดียวกัน แต่ความเหมือนกันนั้นได้จบสิ้นลงไปแล้ว ปัจจุบันดาวศุกร์แตกต่างจากโลกอย่างมาก ดาวศุกร์ไม่มีมหาสมุทร แวดล้อมไปด้วยชั้นบรรยากาศของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หนาแน่นซึ่งดูเหมือนจะไม่มีไอน้ำอยู่เลย และเมฆบนดาวศุกร์ก็มีส่วนประกอบหลักเป็นหยดกรดซัลฟิวริก ความดันบรรยากาศที่พื้นผิวดาวศุกร์มีค่ามากกว่าความดันบรรยากาศของโลกที่ระดับน้ำทะเล 92 เท่า
ดาวศุกร์มีความร้อนสูงมาก อุณหภูมิที่พื้นผิวเท่ากับ 482 องศาเซลเซียส ความร้อนสูงนี้เป็นผลมาจากปรากฏการณ์เรือนกระจกอันเกิดจากระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีอยู่มากมายบนดาวศุกร์เอง แสงแดดสามารถทะลุผ่านชั้นบรรยากาศและเมฆลงไปได้ แผ่นดินสะท้อนความร้อนนี้กลับออกมา แต่ไม่สามารถหลุดออกไปข้างนอกได้ ความร้อนจึงสะสมรวมตัวอยู่ในบรรยากาศของดาวศุกร์นั่นเอง และทำให้ดาวศุกร์นี้ร้อนกว่าดาวพุธที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์กว่าเสียอีก
ดาวศุกร์หมุนรอบตัวเองช้ากว่าโลกมาก ดาวศุกร์หมุนรอบตัวเองคิดเป็นเวลาเทียบเท่ากับเวลาบนโลก 243 วัน และโคจรรอบดวงอาทิตย์ครบรอบใน 225 วัน สิ่งประหลาดอีกประการของดาวศุกร์ก็คือ ดาวศุกร์หมุนรอบตัวเองจากตะวันออกไปตะวันตก นั่นหมายความว่า หากเราไปยืนอยู่บนดาวศุกร เราจะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก และเห็นพระอาทิตย์ตกทางทิศตะวันออก!
เราได้เห็นภาพพื้นผิวของดาวศุกร์ด้วยเรดาร์จากยานอวกาศที่ไปสำรวจดาวศุกร์ ซึ่งยานอวกาศจากรัสเซียได้ไปเยือนดาวศุกร์หลายครั้งทีเดียว ดาวศุกร์มีพื้นดินสูง ๆ และแอ่งมหาสมุทรเหมือนโลก ทว่า ไม่มีน้ำในแอ่งนั้น และก็เช่นเดียวกับดาวพุธและดวงจันทร์ ดาวศุกร์มีหลุมบ่อมากมาย อาจจะเกิดจากที่มีดาวหางหรืออุกกาบาตพุ่งเข้าชน แต่ก็มีหินใหม่ ๆ ที่น่าจะเกิดจากลาวาอยู่จำนวนไม่น้อยด้วย พื้นผิวของดาวศุกร์อย่างน้อย 85 เปอร์เซ็นต์เป็นหินภูเขาไฟซึ่งมีอยู่มากบนดาวศุกร์ และเราไม่รู้ว่า ภูเขาไฟเหล่านี้ปะทุระเบิดไปหมดแล้วหรือไม่
หากเราสามารถทนความร้อนบนดาวศุกร์ได้ (ซึ่งในความเป็นจริงคงเป็นไปไม่ได้ ความร้อนบนดาวศุกร์สามารถทำให้ตะกั่วละลายได้สบาย) เราก็ไม่สามารถดำรงชีพอยู่บนดาวศุกร์ได้อยู่ดี ทั้งนี้ เพราะดาวศุกร์แถบไม่มีบรรยากาศเลย และก็ไม่มีก๊าซออกซิเจน เราจึงไม่สามารถหายใจบนดาวศุกร์ได้
ข้อมูลทั่วไปของดาวศุกร์ | ||
---|---|---|
มวล (กิโลกรัม)) | 4.869 x 10 23 | |
มวลเทียบกับโลก (โลก = 1) | 0.81476 | |
รัศมีที่เส้นศูนย์สูตร (กิโลเมตร) | 6,051.8 | |
รัศมีที่เส้นศูนย์สูตร (โลก = 1) | 0.94886 | |
ความหนาแน่นเฉลี่ย (กรัม/ลูกบาศก์เซ็นติเมตร) | 5.25 | |
ระยะห่างจากดวงอาทิตย์เฉลี่ย | 108,200,000 | |
ระยะห่างจากดวงอาทิตย์เฉลี่ย (โลก = 1) | 0.7233 | |
คาบการหมุนรอบตัวเอง (วัน) | -243.0187 | |
คาบการโคจรรอบดวงอาทิตย์ (วัน) | 224.701 | |
ความเร็วเฉลี่ยในการโคจร (กิโลเมตรต่อวินาที) | 5.02 | |
ความรีของวงโคจร | 0.0068 | |
ความเอียงของแกน (องศา) | 177.36 | |
ความเอียงของระนาบโคจร (องศา) | 3.394 | |
แรงดึงดูดที่เส้นศูนย์สูตร (m/sec^2) | 8.87 | |
ความเร็วหลุดพ้นที่เส้นศูนย์สูตร (กิโลเมตรต่อวินาที) | 10.36 | |
อุณหภูมิเฉลี่ยที่พื้นผิว | 482 oC | |
องค์ประกอบในชั้นบรรยากาศ
| 96% 3+%
| ซัลเฟอร์ไดออกไซด์,ไอน้ำ,คาร์บอนมอนอกไซด์, อาร์กอน,ฮีเลียม,นีออน,ไฮโดรเจนคลอไรด์ และไฮโดรเจนฟลูออไรด์ |
ดวงอาทิตย์ | ดาวพุธ | ดาวศุกร์ | โลก | ดาวอังคาร | ดาวพฤหัสบดี | ดาวเสาร์ | ดาวยูเรนัส | ดาวเนปจูน | ดาวพลูโต | ดาวหาง | ดาวเคราะห์น้อย |