ประสาทหูเสื่อม
อาการ หูอื้อ การได้ยินเสียงลดลง มีเสียงในหู ( วี๊ๆ เสียงเหมือนจิ้งหรีด)
ลมออกหู (ต้องดูหูก่อนว่าไม่มีขี้หูอุดตัน) อาจเป็นทันทีทันใด หรือค่อยเป็นค่อยไปก็ได้
ในบางรายพบว่ามีเวียนศีรษะร่วมด้วย
สาเหตุ *อายุมาก(โดยทั่วไปจะเริ่มมีประสาทหูเสื่อมเล็กน้อย ตั้งแต่อายุ40ปีขึ้นไป)
*เสียงดัง จะเป็นเสียงดังมากๆสั้นๆเช่นเสียงพลุปืนประทัดระเบิด เครื่องบินไอพ่น
หรือเป็นเสียงดังๆนานๆเช่นเสียงในโรงงานอุตสาหกรรมโรงสี โรงเลื่อย เป็นต้น
*ยา ยาบางชนิดมีผลต่อประสาทหูโดยตรงเช่น ยาฉีดกานามัยซิน ยาฉีดเจนต้ามัยซิน
ยารักษามะเร็ง ยาขับปัสสาวะบางตัวเช่นLasix
*เกิดจากความผิดปกติของเมตาบอริซึ่ม เช่น เบาหวาน ไขมันในเส้นเลือดสูง ธัยรอยด์ฮอร์โมนต่ำ
*การอักเสบติดเชื้อ
1.แบคทีเรียได้แก่เยื่อหุ้มสมองอักเสบไข้สมองอักเสบหูชั้นในอักเสบ(มักจะลุกลามจากการติดเชื้อในหูชั้นกลาง)
2.ไวรัสได้แก่หัด คางทูม อีสุกอีใส เอดส์
3.ซิฟิริส
*อาหาร ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดว่าอาหารมีผลต่อการเสื่อมของประสาทหู แต่ก็ควรระวังอาหารที่มีรสเค็ม
อาหารที่มีไขมันสูง ช็อคโกแล็ต ไมโลโอวัลติน ชากาแฟ ผงชูรส
การรักษา ไม่มีการรักษาที่แน่นอน การให้ยากินยาฉีดบางชนิดอาจช่วยให้ดีขึ้นบ้าง
ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เริ่มเป็นจนมาพบแพทย์ ยิ่งมาเร็วก็ยิ่งมีโอกาสดีขึ้นมากกว่า
ถ้าไม่เกิน 1 เดือนมีโอกาสหายหรือดีขึ้นได้ถึง80% ไม่ควรวิตกกังวลมากเพราะ
อาการที่เป็นอยู่ไม่เป็นอันตราย ไม่ร้ายแรง ส่วนมากมักเปลี่ยนแปลงช้าๆ คงที่หรือดีขึ้น
แต่ต้องปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์และกินยาสม่ำเสมอ
การใช้เครื่องช่วยฟัง ช่วยได้ดีในคนที่มีปัญหาเรื่องการได้ยินมาก
ข้อแนะนำในการปฏิบัติตัว
-หลีกเลี่ยงเสียงดังทุกชนิด หากจำเป็นต้องทำงานในที่ที่มีเสียงดังควรอุดหูด้วยอุปกรณ์ ที่มีคุณภาพดี
และไม่ระคายเคือง(EAR PLUG)
-หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีผลทำลายประสาทหู
-หลีกเลี่ยงอาหารเค็ม อาหารไขมันสูง ชอคโกแล็ต ไมโลโอวัลติน ชากาแฟผงชูรส
-งดการออกกำลังกายชั่วคราวในกรณีที่ท่านเป็นประสาทหูเสื่อมเฉียบพลัน
ขี้หูคืออะไรต้องกำจัดทิ้งหรือไม่
ขี้หู(Cerumen)ประกอบไปด้วยโปรตีนไขมันและLysozyme +Immonoglobulin(สารที่
ร่างกายผลิตขึ้นมาเพื่อต่อต้านเชื้อโรค) จะแตกต่างกันในแต่ละคนจะแตกต่างกันทั้งเรื่องปริมาณและลักษณะ
แบ่งเป็น2แบบใหญ่ๆคือ
1.dry , brittle , light-gray, rice-bran cerumen คือแบบเป็นผงแห้งๆสีเทาอ่อนเกือบขาว
2.wet , sticky ,brown cerumen คือแบบเปียกสีน้ำตาลเข้มถึงดำหรือสีน้ำตาลปนดำ
บางคนมีขี้หูไม่มาก แต่บางคนมีมากบางคนเป็นขี้หูแห้ง บางคนมีขี้หูเปียกปกติแล้วขี้หูจะถูกกำจัด
พร้อมเซลของรูหูที่ตายแล้วลอกออกเป็นขี้ไคลจะถูกดันออกมาที่รูหูด้านนอก(ในขณะเคี้ยวหรือกลืน)
ขบวนการณ์นี้อาจถูกยับยั้งหรือต้านด้วยการแคะหู ปั่นหูด้วยสำลีหรือวัตถุอื่นๆและในบางคน
ขบวนการณ์นี้ไม่เกิดขึ้นจึงทำให้มีการอุดตันของขี้หู(Impact cerumen)ทำให้มีอาการหูอื้อ
การได้ยินลดลงประมาณ10-30dB. ลมออกหู และขี้หูจะถูกผลิตมากขึ้นเมื่อ มีการกระตุ้นจากภายนอก
เช่นน้ำเข้าหูโดยการสระผม ว่ายน้ำ ความชื้นในอากาศมากๆก็ทำให้ขี้หูมากขึ้นได้
การรักษา ขี้หูอุดตันก็ทำได้โดยการมาพบแพทย์หูคอจมูก แพทย์จะเอาขี้หูออกให้โดย การดูดด้วยเครื่องดูด
หรือล้างด้วยการฉีดน้ำเกลืออุ่นๆ หากขี้หูแข็งมากก็จะให้ยาละลายขี้หูไปหยอดที่บ้านก่อนแล้วนัดมาดูดออก
ข้อสรุป 1. ขี้หูมีส่วนประกอบที่มีประโยชน์ในการต้านเชื้อโรค ป้องกันหู ดังนั้นท่าน ไม่ควรแคะหู ปั่นหู หรือใช้น้ำยาต่างๆมาล้างหูเองเพราะอาจทำให้เป็น อันตรายต่อแก้วห ูหรืออาจเกิดการอักเสบติดเชื้อในหูได้ หากมีอาการหูอื้อควรมาพบแพทย์หู คอ จมูก |